Carbon dioxide catcher อย่างที่ใครหลาย ๆ คนทราบกันดีว่าเจ้าก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์หรือ CO2 เป็นก๊าซตัวร้ายที่รวมตัวกันในอากาศแล้วทำให้โลกของเราร้อนมากขึ้นอย่างที่เป็นมาอยู่ในทุกวันนี้ ในกระบวนการผลิตหรือกระทั่งการหายใจของคนเราก็ล้วนแต่ปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ออกมาอย่างต่อเนื่อง Carbon dioxide catcher เป็นโครงการที่สร้างขึ้นมาจากสตาร์ทอัพชาวแคนาดา สามารถจับเจ้าคาร์บอนไดออกไซด์ เข้าสู่กระบวนการที่เปลี่ยนก๊าซได้ ยิ่งเรามีประชากรเยอะและมีการสร้างสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตสิ่งของ รถยนต์ หรือการก่อสร้างต่าง ๆ ล้วนแต่สร้างคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปในอากาศซึ่งรวมตัวกันและทำลายชั้นบรรยากาศของโลกเราไปเรื่อย ๆ ปัญหานี้เกิดมาตั้งแต่เมื่อร้อยปีก่อนแต่ก็ยังไม่มีทางออกในการแก้ปัญหานี้ มีแต่จะทำให้แย่ลงจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกทุกวันนี้ แม้จะมีการรณรงค์จำกัดการปล่อยกาซคาร์บอนไดออกไซด์แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดการปล่อยก๊าซนี้ให้หมดไปได้ ทาง UN ก็ได้ออกมาแจ้งแล้วว่าภายในร้อยปีนี้ได้มีคาร์บอนไดออกไซด์ปล่อยออกไปสู่ชั้นบรรยากาศถึงแสนล้านตันอย่างแน่นอน! ในเมื่อเราสามารถลดการปล่อยก๊าซนี้ได้สิ่งที่เราพอทำได้คือคิดค้นหาวิธีนำเจ้าก๊าซนี้มาใช้เสียเลย Carbon dioxide catcher จับคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศมาสร้างประโยชน์ Carbon dioxide catcher จับคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศมาสร้างประโยชน์ เป็นโครงการที่สร้างขึ้นมาจากสตาร์ทอัพชาวแคนาดาที่ต้องการจับเจ้าคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อโลกของเรา ทั้งนี้ผู้ที่ให้ทุนในการสนับสนุนสตาร์ทอัพชาวแคนาดาที่ชื่อว่า Carbon Engineering ก็คือบิลเก็ตส์นั่นเอง เห็นได้ชัดเลยว่าบิลเก็ตส์ได้มองไปยังอนาคตว่าการช่วยเหลือโลกของเราด้วยการนำคาร์บอนได้ออกไซด์มาใช้นั้นมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นจริง แม้ตอนนี้เราจะสามารถจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็นที่เรียบร้อยแต่ก็ยังมีปัญหาอยู่ที่ว่าเจ้าก๊าซที่เราจับมาได้นั้นจะสามารถนำไปทำอะไรต่อได้ เพราะในกระบวนการที่เปลี่ยนก๊าซให้เป็นประโยชน์นั้นแน่นอนว่าต้องมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใหม่ออกมาอยู่ดี และต้องอย่างลืมด้วยว่าในการจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้วประมาณหนึ่งร้อยเหรียญต่อหนึ่งการแยกคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาหนึ่งตัน หลายคนก็แนะนำให้ทำลายก๊าซนี้ทิ้งไปเสียแต่การทำลายก๊าซก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงเหมือนกัน การนำมาแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งที่มีค่าน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่า โครงการ Carbon […]
