การกำจัดขยะ เป็นปัญหาของโลกเราในปัจจุบัน ด้วยปัญหาที่มนุษย์เป็นคนสร้าง การรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจึงมีเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลดใช้พลาสติก หรือแม้แต่การปลูกป่า แต่หนึ่งในขยะที่ไม่ควรมองข้าม และมีอันตรายมาก อย่างขยะอิเล็กทรอนิกส์ เป็นขยะที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติเหมือนขยะทั่วไป ขยะอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์เกี่ยวกับอิเล็คทรอนิกส์ที่เราไม่ใช้แล้วในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ แบตเตอรี่ โทรทัศน์ วิทยุ ซึ่งมีวิธีกำจัดที่หลายคนยังไม่รู้ เราจึงจะมาบอกถึงจุดจบของขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ให้คุณเข้าใจได้ง่าย ดังนี้
การกำจัดขยะ ที่เราควรทราบ เนื่องจาก สารพิษ 5 ชนิดที่มีอยู่ในขยะอิเล็กทรอนิกส์และมีอันตรายต่อมนุษย์
แยกขยะก่อน โดยแยกแบตเตอรี่ สายชาร์จ ชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ โดยส่วนใหญ่หากเป็นแบตเตอรี่ตัองแยกส่วนเพื่อดูว่ายังสามารถรีไซเคิลได้หรือไม่ โดยจะแยกสกัดสารโลหะจำพวกนิเกิล โคบอลต์ ลิเทียม เพื่อที่จะนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง อีกทั้งแร่เหล่านี้มีราคาสูง จึงเป็นที่นิยมของเหล่านักรับซื้อของเก่ามากด้วย หากกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างไม่ถูกต้องไม่ถูกวิธี จะก่อให้เกิดสารปนเปื้อนไปตามธรรมชาติ ซึ่งจะส่งผลเสียถึงมนุษย์โดยตรง โดยสารพิษ 5 ชนิดที่มีอยู่ในขยะอิเล็กทรอนิกส์และมีอันตรายต่อมนุษย์คือ
1. สารปรอท ตัวร้ายสุดในบรรดาสารเคมี ระคายเคืองผิวหนังอีกทั้งทำลายสมอง ไต และยังส่งผลถึงหัวใจอีกด้วย
2. นิกเกิล หากสัมผัสบ่อยครั้ง ผิวหนังจะเกิดอาการแพ้ มีผื่นขึ้น บวมแดงคล้ายรอยไหม้
3. ตะกั่ว ส่งผลให้ร่างกายคลื่นไส้ ปวดหัว
4. โครเมียม สารก่อมะเร็งอย่างรุนแรง หากสูดดมเข้าไปในร่างกายจะทำให้เกิดการระคายเคืองที่ปอด และหากสัมผัสจะรู้สึกคันที่ผิวหนังและเป็นแผล
5. โบรมีน เป็นสารก่อมะเร็งเช่นกัน แต่จะส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ย่อยอาหาร น้ำเหลือง และตรงเข้าทำลายตับในที่สุด
เมื่อทำการแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆ ออกเรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่จะถูกส่งไปยังโรงกำจัดขยะที่ได้รับอนุญาติใบประกอบการ 105 และ 106 เพื่อที่จะได้คัดแยก ถอดประกอบ และรีไซเคิลอย่างถูกต้อง อีกทางหนี่งที่มีส่วนช่วยในการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ คือ ผู้ผลิตเองคำนึงถึงการใช้วัสดุและการออกแบบให้ออกมารีไซเคิลได้ง่าย รวมไปถึงตั้งจุดรับกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยตรง สามารถทำให้การกำจัดทำได้ง่ายขึ้น สำหรับประเทศไทยนั้นปัจจุบันมีขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 60 และเป็นโทรศัพท์มือถือมากที่สุด และกรมควบคุมมลพิษได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดเก็บ คัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ โดยมีโครงการรับคืนผลิตภัณฑ์รับคืนซากเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์เพิ่มขึ้นตามจุดรับคืนที่ต่างๆ รอบกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมไปถึงต่างจัดหวัดแล้วแต่จุดแจ้งที่คืน และจัดกิจกรรมสร้าความเข้าใจให้กับประชาชนอีกด้วย
ที่มาบทความ https://www.ryt9.com/s/prg/3087017
ถ้าชอบอย่าลืมกดติดตาม เว็บรวบรวมเทคนิค และ ข่าวดี สำหรับผลงานนักวิจัยไทยจากเรื่อง ถุงพลาสติก ย่อยสลายได้แล้วภายใน 4 เดือน
